Last updated: 11 ก.ย. 2567 | 2004 จำนวนผู้เข้าชม |
เคลือบแก้ว คืออะไร? เคลือบแก้ว ดีไหม?
คลือบแก้ว (Glass Coating) เรามาทำความรู้จักกับคำนี้กันก่อน โดยเฉพาะคนที่ออกรถมาใหม่ แน่นอนคุณจะต้องศึกษา และค้นหาข้อมูลการ เคลือบแก้ว มาว่าคุณจะนำรถไปเคลือบมันดีไหม? ส่วนรถใครที่มีอายุการใช้งานแล้วอยากจะเคลือบแก้วบ้าง จะทำได้ไหม?
น้ำยา เคลือบแก้ว (Glass Coating) จะมีระดับความหนาของชั้นเคลือบที่แตกต่างกัน มีตั้งแต่ระดับ 1-9 H ส่วนมากการเคลือบแก้วก็พัฒนามาจากสาร Silica ระยะเวลาความคงทนก็ขึ้นอยู่กับความหนาของชั้นเคลือบแก้ว และก็สูตรน้ำยาของแต่ละยี่ห้อนั้นและครับ อีกอย่างก็คือราคาก็จะแตกต่างกันไปแต่ละระดับของความหนานะครับ บางครั้งร้านที่คุณไปใช้บริการเครมว่าของเขาหนาถึงระดับ 9H เวลาเคลือบเสร็จคุณก็ให้ร้านใช้เครื่องมือวัดความหนาของชั้นผิวสีรถให้ดูทั้งก่อนทำและหลังทำได้เลย
มาดูประโยชน์ และข้อดีของการ เคลือบแก้ว กันบ้าง
แน่นอนทำให้รถคุณเงางามอยู่ตลอดเวลา จะว่าใสเหมือนกระจกเลยก็ดูจะเวอร์ไม่ถึงขนาดนั้นบางครั้งความหนาของชั้นเคลือบแก้วก็ทำให้การตกกระทบของแสงน้อยไปหรือเพี้ยนไปทำให้รถดูไม่ค่อยเงาเหมือนตอนที่ลงเคลือบใหม่ๆ
ปกป้องสีรถคุณจากแสงแดดได้ดี เพราะชั้นของการเคลือบหนาขนาดนั้น แดดย่อมเลียผิวสีของรถคุณไม่ถึงอยู่แล้ว รถคุณก็จะยืดระยะเวลาของการเสื่อมสภาพของสีรถไปอีก สีก็จะไม่ค่อยหมองเร็วนั้น
เช็ดฝุ่น เช็ดคราบสกปรก คราบไคลน้ำ ออกง่าย ถ้าเคลือบแก้วแล้วคราบต่างๆพวกนี้จะไม่เข้าไปฝังแน่นในชั้นของแล็คเกอร์รถ ทำให้หลุดออกง่ายเวลาทำความสะอาด แต่ไม่ใช่เห็นว่ารถตัวเองเคลือบแก้วมาแล้วปล่อยไว้ก่อนแล้วค่อยล้างทำความสะอาด ไม่ใช่นะครับ คราบสามารถฝังเข้าไปได้เหมือนกัน แต่มันใช้เวลาและยากหน่อยเท่านั้นเอง เพราะน้ำยาเคลือบแก้วไม่ได้แข็งเหมือนแก้วเหมือนกระจก เขาพัฒนาให้มีความยืดหยุ่นของน้ำยาเคลือบด้วย ไม่อย่างนั้นเคลือบไปบนรถก็แตก
ป้องกันการเกิดรอยขนแมว รอยขีดข่วน ได้มากกว่าปกติ บางคนเข้าใจผิดว่าไปเคลือบมาแล้ว รถต้องไม่เป็นรอยเวลาโดนเฉี่ยว โดนสะเก็ดหิน หรือกิ่งไม้เกี่ยว มีโอกาสเป็นรอยได้ แต่ยากกว่าปกติมากหน่อยเท่านั้นเอง ทางผู้ให้บริการถึงต้องมีเซอร์วิส 2 เดือน 6 เดือน แล้วแต่ให้เข้าไปเช็คสภาพทีนึง
25 พ.ค. 2560
24 พ.ค. 2560