Last updated: 11 Sep 2024 | 2408 Views |
โดยจริงๆ แล้วลมยางทั่วไปซึ่งเป็นอากาศปกติที่เราอัดเข้าไปในยางรถยนต์นั้น พื้นฐานโดยธรรมชาติของมันก็มีส่วนผสมของไนโตรเจนอยู่แล้วมากถึง 78 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเจ้าลมยางไนโตรเจนที่เราพูดถึงนั้นมันคือการใช้ก๊าซไนโตรเจนซึ่งมีบริสุทธิ์ 93 เปอร์เซ็นต์มาเติมในยางรถยนต์แทนลมยางปกติ ซึ่งไนโตรเจนมีสถานะเป็นแก๊ส โดยไนโตรเจนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชั้นบรรยากาศโลกที่มีอยู่มากถึง 78% ซึ่งปกติแล้วไนโตรเจนจะไม่มีกลิ่น รส หรือสีใดๆทั้งสิ้น
.
ลมยางไนโตรเจนนั้นเมื่อก่อนจะมีการใช้กับยานพาหนะอากาศยาน เช่น เครื่องบิน หรือในรถ F1 เท่านั้น เพราะว่าลมยางไนโตรเจนเป็นลมที่ดีและมีความเสถียรที่สุด
.
ลดอัตราการระเบิดของลมยางได้ เพราะก๊าซไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉื่อย ทำให้การยึดติดกันของโมเลกุลแต่ละโมเลกุล มีการขยับตัวเคลื่อนที่ช้ากว่าส่งผลทำให้โมเลกุลเสียดสีกันน้อย จึงลดโอกาสที่จะทำให้ลมภายในยางเกิดความร้อนสะสม แรงดันลมในยางจึงเปลี่ยนแปลงไม่มากทำให้ยางมีโอกาสระเบิดน้อยลงนั่นเอง
.
ให้ความนุ่มนวลและลดเสียงดังจากยางกระทบพื้น เพราะก๊าซไนโตรเจนมีกายึดติดของโมเลกุลตามที่บอกข้างต้น เมื่อยางกระทบกับคลื่นตะเข็บของถนน ยางจะเคลื่อนที่ยืดหยุ่นตัวได้ช้าลง ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น และลดเสียงดังของยางไปได้
.
ไม่ทำให้กระทะล้อเป็นสนิม เพราะไนโตรเจนจะทำให้ภายในยางมีปริมาณออกซิเจนอยู่น้อย ถ้าออกซิเจนไปรวมตัวทำปฏิกิริยากับเหล็กหรืออลูมิเนียม ก็จะทำให้เกิดสนิมที่บริเวณกระทะล้อได้ แต่เมื่อไม่มีออกซิเจนไปรวมตัวแล้วทำปฏิกิริยาก็จะไม่มีสาเหตุที่ทำให้เกิดสนิมได้นั่นเอง
.
ไม่ต้องคอยเติมลมหรือเชคลมยางบ่อยๆ เนื่องจากอะตอมของไนโตรเจนที่มีขนาดโตกว่า อะตอมของออกซิเจน ซึ่งปกติแล้วออกซิเจนจะสามารถซึมเข้าออกเนื้อยางได้ แต่ไนโตรเจนไม่สามารถซึมผ่านได้ ดังนั้นเมื่อเติมไนโตรเจนจึงทำให้ลมยางไม่ค่อยลดลง
4 Jan 2020
11 Apr 2020
31 Jan 2020