การขับรถสวนทางกัน
การขับรถสวนทางกันหมายถึงสถานการณ์ที่รถสองคันนั้นขับเข้าหากันในทิศทางตรงกันข้ามบนถนน โดยปกติจะเกิดขึ้นบนถนนที่มีเลนสวนกัน หรือในสถานการณ์ที่การจราจรไม่ได้แบ่งแยกด้วยเกาะกลางหรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ
มีหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ ดังนี้
- ควรชะลอความเร็วถ้ามีรถสวนมาเพื่อให้สามารถควบคุมรถได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
- ควรเปิดไฟหน้ารถในเวลากลางคืนหรือทัศนวิสัยไม่ดี เพื่อให้ผู้ที่ขับรถสวนมาสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
- ควรขับรถให้ชิดเลนของตัวเองมากที่สุดเพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการสวนทาง
- หลีกเลี่ยงการแซงในสถานการณ์ที่มีการขับรถสวนทาง เพราะอาจเกิดอันตรายได้ง่าย
- ในกรณีที่จำเป็นหรือไม่ปกติ ควรใช้สัญญานไฟหรือใช้เสียงเตือนให้รถที่สวนมาทราบ
- ระวังและสังเกตุการจราจรและเตรียมพร้อมสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น การเบรกกระทันหัน
การขับรถผ่านวงเวียน (Roundabout) เป็นสถานการณ์ที่ต้องการความเข้าใจในกฎจราจรและความระมัดระวัง เนื่องจากวงเวียนเป็นจุดที่รถหลายคันอาจเข้ามาพร้อมกันจากทิศทางต่าง ๆ
มีหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ ดังนี้
- เมื่อเข้ามาในวงเวียนแล้วควรขับต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงทางออกที่ต้องการ หลีกเลี่ยงการหยุดกลางวงเวียนเพราะอาจทำให้การจราจรติดขัดหรือเกิดอุบัติเหตุ
- หากวงเวียนมีหลายเลน ควรเลือกเลนที่ตรงกับทางออกที่ต้องการจะไป
โดยปกติแล้ว:
- ใช้เลนซ้ายสุดถ้าจะออกทางออกแรก
- ใช้เลนขวาสุดหรือเลนกลางถ้าจะไปทางออกที่สองหรือสาม - ก่อนเข้าวงเวียนควรชะลอความเร็วและพร้อมที่จะหยุดหากจำเป็น ตรวจสอบสภาพการจราจรในวงเวียนว่ามีรถอยู่หรือไม่
- หากมีป้ายหรือสัญญาณจราจรใด ๆ ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เช่น ป้ายให้ทาง (Yield) หรือป้ายห้ามเข้า
- ให้ทางกับรถในวงเวียนไปก่อน ไม่ควรขับเข้าไปในวงเวียนจนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัยและไม่มีรถคันอื่นเข้ามาใกล้
- หากวงเวียนมีหลายเลน ควรเลือกเลนที่ตรงกับทางออกที่ต้องการจะไปโดยปกติ
- ใช้เลนซ้ายสุดถ้าจะออกทางออกแรก
- ใช้เลนขวาสุดหรือเลนกลางถ้าจะไปทางออกที่สองหรือสาม - เมื่อจะออกจากวงเวียน ควรเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย (สำหรับวงเวียนที่ขับรถทางซ้าย) เพื่อแจ้งให้รถคันอื่นทราบว่าเรากำลังจะออกจากวงเวียน